ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
อัพเดตล่าสุดเมื่อ เวลา 16:19 น.วันจันทร์ ที่ 25 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2565
หมวดหมู่ ฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

บทความนี้จะอธิบายถึงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับอันตรายของฟิลเลอร์ว่าการ ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ที่คนส่วนมากยังเข้าใจผิดและสับสนจากข่าวตามสื่อต่าง ๆ ครับ เนื่องจากคำว่า “ฟิลเลอร์” ที่คนไทยส่วนมากเข้าใจนั้นมีความหมายไม่ตรงกับ Injectible Filler ในทางการแพทย์สากล

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ต้องดูว่าใช้ฟิลเลอร์ประเภทไหนครับ ฟิลเลอร์ (Filler) ในทางการแพทย์ หมายถึง สารฉีดเติมเต็ม (Injectible Filler) ซึ่งในต่างประเทศ มีหลายประเภทดังนี้

  • HA (Hyaluronic Acid) เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมและปลอดภัยที่สุด สามารถย่อยสลายได้ และสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อยๆ มีใช้แพร่หลายทั่วโลก

  • Collagen จากสัตว์ ไม่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากจะมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ แพ้บวมแดงได้ง่าย

  • Transplanted Fat (เติมไขมัน) เหมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมากๆ 10-20 cc ขึ้นไป

  • Biosynthetic polymers เช่น Calcium hydroxylapatite, polymethylmethacrylate, ซิลิโคนเหลว กลุ่มนี้จะเป็นฟิลเลอร์ชนิดที่สลายไม่หมด ไม่ปลอดภัย ไม่แนะนำให้ใช้ ไม่ผ่าน อย.

แต่คำว่า “ฟิลเลอร์” ที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจและที่หมอในประเทศไทยกล่าวถึง จะหมายถึง HA (Hyaluronic Acid) ในข้อ 1 นั่นคือ ฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย

ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ปลอดภัย ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

การฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) จะช่วยยกพยุงและทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจน และ ไฮยารูรอน ที่ร่างกายสูญเสียไป จนทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และมีริ้วรอย ร่องลึก

เมื่อฉีดฟิลเลอร์ ประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งถูกผลิตเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ในจุดที่มีริ้วรอย เนื้อฟิลเลอร์จะเข้าไปทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน และด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำ มีความคงตัว ฟิลเลอร์สามารถใช้ในการปรับโครงสร้างใบหน้า เสริมคาง เสริมขมับ หน้าผาก ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ


ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

ถ้าเป็นฟิลเลอร์ปลอม จะหมายถึง ฟิลเลอร์ประเภทที่ 4 Biosynthetic polymers คือ ฟิลเลอร์ราคาถูกที่ย่อยสลายไม่ได้ หรือย่อยสลายไม่หมด อยู่ได้เกิน 5 ปี และยังหมายรวมถึง ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) ประเภทที่ 1 ที่ราคาถูกไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าแบบผิดกฏหมาย ที่ไม่ผ่าน อย. และย่อยสลายไวเกินไปคุณสมบัติไม่คงตัวอีกด้วย

จะเห็นว่า การเติมไขมัน และ ฟิลเลอร์ปลอม ในต่างประเทศจะจัดรวมไว้ในคำว่า Filler (ฟิลเลอร์) ด้วยทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมจึงพบหลายงานวิจัยในต่างประเทศให้ข้อมูลว่าฟิลเลอร์นั้นอันตราย ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน นั่นเป็นเพราะคำว่าฟิลเลอร์ในทางสากลนั้นจะหมายรวมถึงฟิลเลอร์ประเภทที่ 1,2,3,4 ทั้งหมด

ดังนั้นที่ข่าวหรือสื่อต่าง ๆ ตีพิมพ์ ก็จะยึดตามหลักสากล ซึ่งก็จะไม่ตรงกับความเข้าใจของคนไทยส่วนมาก เช่น ในสื่อเขียนว่า ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าพัง ทั้ง ๆ ที่เมื่อดูเนื้อข่าวแล้วฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ 4. ที่ไม่ปลอดภัยและฉีดกับหมอกระเป๋า

ถ้าจะให้คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจถูกต้องควรจะพาดหัวข่าวว่า ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วหน้าพัง แบบนี้แทนครับ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉีดฟิลเลอร์แท้แล้วจะปลอดภัย 100 ฉีดฟิลเลอร์แท้ก็มีโอกาสเกิดอันตรายได้ หลายคนจึงกังวลโดยเฉพาะจุดที่ใกล้ดวงตา อย่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ฟิลเลอร์แท้จะสามารถแก้ไขได้ง่ายกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับประสบการณ์และเทคนิคในการฉีดของแพทย์ด้วยครับ

ตัวอย่างเคสที่แก้ไขกรณีเกิดอุบัติเหตุฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด มีเนื้อตายชั่วคราว (จุดสีดำ ๆ) จากการฉีดฟิลเลอร์จมูก หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ HA ที่ได้มาตรฐาน ก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย


อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอมมีอะไรบ้าง

  •  เนื้อตาย เนื้อตายนั้นเกิดจากการอุดตันในเส้นเลือด (necrosis) ทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ จะพบได้บ่อยที่สุดในฟิลเลอร์ประเภทที่ 3 หรือการเติมไขมัน (Transplanted fat)

  • แต่หากเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ 1 HA (Hyaluronic Acid) ที่เป็นของแท้ หมอสามารถตรวจพบการอุดตันในเส้นเลือดได้จากการเปลี่ยนแปลงของสีผิวขณะฉีดและหลังฉีด และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีเนื่องจาก ฟิลเลอร์ประเภทที่ 1 HA (Hyaluronic Acid) นั้นสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้โดย เอนไซม์ที่ชื่อ Hyaluronidase สามารถละลายหมดได้ 100 ทำให้รักษาให้เนื้อกลับคืนมาได้ 100

  •  ตาบอด(blindness) พบได้ในการเติมไขมัน (Transplanted fat) หรือฟิลเลอร์ประเภทที่ 3 มากที่สุด

  • แต่หากฉีดฟิลเลอร์ด้วย Hyaluronic Acid (ฟิลเลอร์ประเภทที่ 1) โดยแพทย์ที่ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง (ตามที่จะอธิบายต่อไปนี้) ความเสี่ยงในการเกิดตาบอด ก็จะน้อยมากๆ ประหนึ่งว่าการนั่งรถยนต์โดยสารก็ยังเสี่ยงอุบัติเหตุมากกว่า

  •  แพ้บวมแดง(reaction,granuloma) ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนแข็งเมื่อเวลาผ่านไป 3-5 ปี เกิดขึ้นได้ในฟิลเลอร์ประเภทที่ 4 มากที่สุด

  • การอักเสบติดเชื้อ(infection) ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์แต่ละคลินิก และพบได้บ่อยในเคสที่ฉีดโดยหมอกระเป๋า หรือคลินิกเถื่อน

จากกราฟจะเห็นว่าการเติมไขมัน (ฟิลเลอร์ประเภทที่ 3) มีความเสี่ยงสูงที่สุด ที่จะเกิดเนื้อตายและตาบอด เนื่องจากไม่มียาที่ฉีดสลายออกได้ทันที

การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย นั่นคือการเลือกใช้ Hyaluronic Acid (ฟิลเลอร์ประเภทที่ 1) ที่ได้มาตรฐาน สามารถย่อยสลายได้ในระยะ 6-18 เดือน มี อย.รับรอง และเนื่องจาก 60 ของคลินิกต่าง ๆ ที่เปิดอยู่ในปัจจุบันมีการตรวจเจอ ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ที่สลายไม่หมด ทางที่ดีคนไข้ควรศึกษาวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) แท้ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันตัวเองครับ เพราะถ้าเจอฟิลเลอร์ปลอม ก็อาจจะเกิดปัญหาตามที่เป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ


ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ ที่ไม่เป็นอันตราย

หากฉีดฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ ดังนี้ครับ

  1. อาการบวมเข็มหลังฉีด หรือผื่นคัน สามารถหายไปเองได้ภายใน 1 สัปดาห์

  2. หลังฉีดฟิลเลอร์จะยังไม่เข้าที่ 100 อาจมีอาการบวมจากตัวฟิลเลอร์ แต่จะค่อย ๆ เข้าที่ใน 2 สัปดาห์

  3. รอยเข็มเล็ก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถแกะพาสเตอร์ที่ติดออกได้ใน 1 ชั่วโมงหลังฉีด

นอกจากนี้สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการแพ้ฟิลเลอร์ (กรณีนี้เกิดขึ้นได้น้อยมากครับ) ได้ในบทความ อาการแพ้ฟิลเลอร์ คืออะไร อันตรายไหม ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) ให้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย

เพื่อให้คนไข้เข้าใจมากขึ้น และลดความกังวลเกี่ยวกับอันตรายของฟิลเลอร์ จึงขอลงรายละเอียดทางเทคนิคการฉีดดังนี้นะครับ

A. เลือกสารเติมเต็มที่สามารถย่อยสลายออกได้ทันทีหากเกิดปัญหา เช่น Hyaluronic Acid แท้ (ประเภท 1) สามารถใช้ hyaluronidase ฉีดเพื่อสลายออกได้ 100 ภายใน 5 นาที (แต่ประเภทที่ 2,3,4 ยังไม่มียาที่ฉีดสลายออกได้ทันที)

อ่านเพิ่มเติม : วิธีเลือกใช้ฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) แท้ยี่ห้อไหนดีตามจุดต่างๆบนใบหน้า

B. เข็มแหลมจะใช้ฉีดฟิลเลอร์ชิดกระดูกเท่านั้น

เข็มทู่จะใช้ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นเนื้อที่ตื้นขึ้นมา หรือสามารถฉีดชิดกระดูกได้ในบางจุด ถึงแม้จะเป็นเข็มทู่ก็ไม่สามารถหลบหลีกเส้นเลือดได้ 100 ต้องอาศัยเทคนิคการฉีดในข้อต่อๆ ไปช่วยเสริม (ในยุคแรกๆ ของ Hyaluronic Acid มีหมอจำนวนไม่น้อยที่ประมาทว่าใช้เข็มทู่แล้วจะไม่เข้าเส้นเลือด จึงทำให้เกิดเคสเนื้อตายหลายเคส ต่อมาเมื่อได้เรียนรู้เทคนิคการฉีดอย่างปลอดภัย ก็สามารถลดความเสี่ยงจุดนี้ลงได้มาก)

แม้จะเป็นเข็มทู่ ถ้าใช้ขนาดเข็มเล็กเกินไปก็สามารถแทงเข้าเส้นเลือดได้

C. สำหรับเข็มทู่ ควรใช้ยาชาฉีดนำเข้าไปในบริเวณนั้นๆ ก่อน ยาชาเป็นน้ำจะช่วยให้เส้นเลือดลื่น และลดโอกาสที่เข็มทู่จะเข้าเส้นเลือดได้

D. ก่อนที่หมอจะดันยาทุกครั้ง หมอจะต้องทดสอบโดยการดูดเข็มเข้ามาก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเข็มไม่เข้าเส้นเลือด โดยจะต้องดูดค้างไว้อย่าน้อย10วินาที จึงจะมั่นใจและเดินยาได้ หากเข็มมีการตัดผ่านเส้นเลือดขณะที่ดูดเข้มเข้ามา จะมีเลือดผสมเข้ามาในเข็มด้วย

E. ทั้งเข็มทู่และเข็มแหลมควรเลือกใช้ขนาดของเข็มที่ไม่เล็กจนเกินไป ขนาดที่เหมาะสมคือ 22G-25G เข็มที่ขนาดเล็กเกินไปมีข้อเสียดังนี้

  • เพิ่มความเสี่ยงในการแทงเข้าหลอดเลือด

  • ขณะที่หมอดูดเข็มเพื่อทดสอบก่อนฉีด ถ้าเข็มเล็กเกินไป อาจจะทำให้ดูดไม่เจอเลือดถึงแม้จะเข้าเส้นเลือด

  • ขณะที่เดินยาถ้ารูเข็มเล็กจะเพิ่มแรงดัน และเพิ่มโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเข้าเส้นเลือดได้ง่ายขึ้น

ภาพตัวอย่างแสดงขนาดของเข็มฟิลเลอร์ จะเห็นว่า ยิ่งเบอร์เล็กขนาดจะยิ่งใหญ่ครับ

F. ขณะที่เดินยาหมอจะคลำปลายเข็ม เพื่อตรวจสอบทุกครั้งว่ามีฟิลเลอร์ออกจากปลายเข็มและทำให้เนื้อยกขึ้น เต็มขึ้น เหมือนเป่าลมลูกโป่งแล้วเห็นลูกโป่งฟองขึ้น จะมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ไม่ได้เข้าหลอดเลือด

G. ขณะเดินยาหมอจะคอยสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของสีผิวคนไข้ ถ้าฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด สีผิวจะซีดหรือแดงขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ก็จะสามารถฉีดสลายเพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที

H. ในแต่ละจุดที่ฉีดหมอจะเดินยาอย่างช้าๆ เพื่อให้เกิดแรงดันน้อยที่สุด และฉีดปริมาณน้อยๆ ในแต่ละจุด ไม่เกินจุดละ 0.1 cc ถ้าสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติก็จะสามารถแก้ไขได้ทันที โดยที่ปัญหานั้นๆจะยังไม่กระจายบริเวณกว้าง

ซึ่งเทคนิค A-H ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เป็นเทคนิคที่แพทย์ของ V square clinic ทุกคนใช้ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้เกิดความปลอดภัย 100 แก่คนไข้ครับ


วิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์

เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน สวยงาม ก่อนฉีดควรศึกษาข้อมูล ดังนี้

1. เลือกฉีดฟิลเลอร์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ

คลินิกที่ได้มาตรฐาน สังเกตจาก ป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนญาต 11 หลัก ว่าเปิดอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และควรตั้งอยู่ในทำเลที่กว้างขวาง สะอาด เช่น ห้างสรรพสินค้า สามารถเดินทางเข้ามาติดต่อที่คลินิกได้สะดวก

2. ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น

ในปัจจุบันยังมีข่าวการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ที่อันตรายมาฉีดอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) ที่ปลอดภัย ควรศึกษาจุดสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ และขอตรวจสอบกล่องก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ แกะกล่องใหม่ครับ

3. เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์มีประสบการณ์

การฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ปัจจัยที่สำคัญคือแพทย์ผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรมีประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่เรียบเนียนไปกับผิว หรืออันตรายอื่น ๆ

4. เลือกคลินิกที่มีรีวิว

การดูรีวิวของคลินิกต่าง ๆ ไม่ควรดูแต่ที่เป็นรูปถ่าย หรือในช่องทางของคลินิกเพียงอย่างเดียวครับ เพราะตกแต่งได้ง่าย ควรดูรีวิวจากช่องทางที่เป็นกลาง มีความน่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบได้ สามารถเห็นผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์จากผู้ใช้บริการจริง

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ


ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
  • ฉีดผิวขาวจริงไหม ?
    ฉีดผิวขาวจริงไหม ?
    ฉีดผิวขาวจริงไหม ?
  • รวมสิ่งที่ต้องรู้ อัลเทอร่า ,อัลเทอร่า ชลบุรี, ulthera ชลบุรี เจ็บน้อย ยกมาก
    รวมสิ่งที่ต้องรู้ อัลเทอร่า ,อัลเทอร่า ชลบุรี, ulthera ชลบุรี เจ็บน้อย ยกมาก
    อัลเทอร่า ชลบุรี,ulthera ชลบุรี เครื่องใหม่ เจ็บน้อย แต่ยกมาก การทำ Ulthera คือ การยกกระชับผิวหน้าและลำคอด้วยเครื่องยกกระชับที่มีชื่อเรียกว่า “อัลเทอราปี (Ultherapy)” หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “อัลเทอร่า (Ulthera)” โดยใช้เทคโนโลยี MFU-V (Micro-Focused Ultrasound With Visualization) ซึ่งเป็นคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในระดับความถี่สูง ส่งผ่านคลื่นแสงไปยังชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
โปรโมชั่นดีๆจาก Lyft Clinic
โปรโมชั่น1
อัพความมั่นใจ กับการเติมรูปหน้าสวยด้วย Filler neuramis 5,900 บาท
Hifu ทั้วหน้า 200 Shots เพียง 3,900 บาท
หน้าไบร์ท แบบเร่งด้วย ในงบ 2,900 บาท ด้วย HYA สูตรเข้มข้น